ฝ่ายบริหารความเสี่ยงราคาและวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันว่า ราคาน้ำมันสัปดาห์ที่ 19 - 23 ธ.ค. 54 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.04 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 106.79 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบราคาน้ำมันดิบเวสเท็กซัส (WTI) เฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.74 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 97.80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เฉลี่ยปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.92 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 104.56 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยลดลง 0.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 113.39 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ยลดลง 1.03 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล อยู่ที่ 121.73 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคา ได้แก่
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก
• กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ (New Home Sales) ในเดือน พ.ย. 54 เพิ่มขึ้น 1.6% จากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 315,000 หน่วย สูงสุดในรอบ 7 เดือน
• กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ รายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) ประจำเดือน พ.ย. 54 เพิ่มขึ้น 3.8% จากเดือนก่อน อยู่ที่ระดับ 2.07 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
• กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ธ.ค. 54 ลดลง 4,000 ราย จากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ 364,000 ราย ต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง
• สำนักงานสถิติของเยอรมนี Ifo รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ (Business Sentiment) เดือน ธ.ค. 54 อยู่ที่ 107.2จุด (+0.6% จากเดือนก่อน) ขณะที่ดัชนีความคาดหวังของภาคธุรกิจ (Business Expectation Index) เดือน ธ.ค. 54 อยู่ที่ 98.4 จุด (+1.1% จากเดือนก่อน)
• วันที่ 24 ธ.ค. 54 อิหร่านเริ่มปฏิบัติการซ้อมรบตามแผนเป็นระยะเวลา 10 วัน บริเวณพื้นที่ฝั่งตะวันออกของช่องแคบ Hormuz ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญของโลก ทั้งนี้มีปริมาณขนส่งน้ำมันดิบทางเรือผ่านช่องแคบนี้ประมาณ 15 ล้านบาร์เรลต่อวัน
• เกาหลีใต้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยการออกมาตรการห้ามการลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันและก๊าซ อย่างไรก็ตามเกาหลีใต้ยังไม่ได้เพิ่มมาตรการห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบจาก อิหร่าน เนื่องจากอาจกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศโดยตรง
• บริษัท Shell ในประเทศไนจีเรียหยุดดำเนินการผลิตน้ำมันดิบชั่วคราว 2 แสนบาร์เรลต่อวัน จากแหล่งผลิตนอกชายฝั่ง Bonga เนื่องจากสาเหตุน้ำมันรั่วไหลจากถังเก็บน้ำมัน
• รัฐบาลคาซัคสถานประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการประท้วง ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย ทั้งนี้ คาซัคสถานเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับ 2 ในกลุ่มอดีตสหภาพโซเวียต มีกำลังการผลิต 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ในระดับเดียวกับลิเบียช่วงก่อนเกิดสงครามกลางเมือง
ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ
• กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงาน ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index) ของเดือน พ.ย. 54 ทรงตัวจากเดือน ต.ค. 54 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%
• ประธานของ State Oil Marketing Organization ของอิรักรายงานยอดส่งออกน้ำมันดิบเดือน ธ.ค. 54 เพิ่มขึ้น 1.9% จากเดือนก่อน มาอยู่ที่ระดับ 2.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน
• OPEC ปรับลดอัตราการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2555 จากการประเมินครั้งก่อนเดิม 1 แสนบาร์เรลต่อวันมาอยู่ที่ระดับ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
• National Oil Corp. ของลิเบียรายงานยอดการผลิตน้ำมันดิบของประเทศปัจจุบันสูงกว่าระดับ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันมีความผันผวนและเพิ่มขึ้นในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าอุปทานน้ำมันอาจตึงตัว หลังอิหร่านเริ่มปฏิบัติการซ้อมรบตามแผนเป็นระยะเวลา 10 วัน บริเวณพื้นที่ฝั่งตะวันออกของช่องแคบ Hormuz ซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจมีการปิดช่องแคบดังกล่าว เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก อีกทั้งสถานการณ์ความไม่สงบในอิรักหลังเกิดเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในกรุง แบกแดดซึ่งอาจกระทบต่อการผลิตและส่งออกน้ำมันของประเทศประกอบกับตลาดน้ำมัน ได้รับแรงหนุนหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่ง โดยยอดขายบ้านใหม่ในเดือน พ.ย. 54 เพิ่มขึ้น 1.6% และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 3.8% ข้อมูลเหล่านี้ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นตัว นอกจากนั้นอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางของจีน นาย Wu Xiaoling กล่าวว่าจีนอาจปรับลดสัดส่วนเงินสำรอง (Reserve Requirement Ratio) ของธนาคารพาณิชย์ลงอีกในปี พ.ศ. 2555 เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบธนาคาร อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของคูเวต นาย Mohammad al-Busairi ระบุว่าปริมาณการผลิตน้ำมันเฉลี่ยเดือน ธ.ค. 54 จะเพิ่มขึ้น 4 แสนบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 15% จากเดือนก่อน อยู่ที่ระดับ 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และแสดงความพร้อมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน ม.ค. 55 หากมีความต้องการในตลาด ทั้งนี้ให้จับตามองตัวเลขดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในกลางสัปดาห์นี้
ที่มา www.mmthailand.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น