สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) และงานแถลงข่าวระหว่าง
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บริษัท แอดวานซ์
อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เรื่อง
“การฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย” เมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2554
ที่ผ่านมา ณ ห้อง ส.อ.ท. 1 ชั้น 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
เดินหน้าซ่อมเครื่องจักร สนับสนุนอุปกรณ์ และถ่ายทอดเทคโนโลยี
แก่ผู้ประกอบการ SMEs
เพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูให้สถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบสามารถพลิกฟื้นกลับ
คืน สู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
รศ.ดร.บุญสม เลิศหิรัญวงศ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์
นายกสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายสมประสงค์
บุญยะชัย รองประธานกรรมการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด
(มหาชน) และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
การตลาดพานิชย์และต่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
กล่าวในการแถลงข่าว “การฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย” ร่วมกันว่า
จากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ ในปี 2554 นี้
ได้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วน
โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
จนไม่สามารถดำเนินการผลิตได้
ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
รวมทั้งกระทบต่อผู้ใช้แรงงานจำนวนมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย
ปัญหาของสถานประกอบการส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบหลังน้ำลด คือ
การขาดแคลนอุปกรณ์เครื่องมือ
และบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการซ่อมแซมเครื่องจักร
ซึ่งในเรื่องดังกล่าวในส่วนของผู้ประกอบการขนาดใหญ่
ได้มีการนำเทคโนโลยีจากต่างประเทศที่มีประสบการณ์ในการฟื้นฟูเครื่องจักร
อุปกรณ์ที่ถูกน้ำท่วมขังเข้ามาดำเนินการเพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้
ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ส่วนใหญ่
จะต้องดำเนินการเองภายใต้ข้อจำกัดหลายด้าน
โดยเฉพาะประสบการณ์ของช่างที่จะดำเนินการ
“เครือข่ายความร่วมมือ”
โดยการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
จึงได้ตระหนักถึงผลกระทบดังกล่าว
โดยเฉพาะผลกระทบต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs)
จึงได้ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู
ซ่อมแซมเครื่องจักรอุปกรณ์ที่เสียหายเนื่องจากอุทกภัย
พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีด้วยการพัฒนาบุคลากรของผู้ประกอบการ
เพื่อให้สถานประกอบการต่างๆ เหล่านั้น สามารถประกอบกิจการได้โดยเร็วที่สุด
การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ว่าด้วย
“การฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัย” ของทั้ง 3 หน่วยงานในครั้งนี้
ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญ ที่ทั้ง 3
หน่วยงานมีเจตนารมย์ร่วมกันที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการ
โดยเฉพาะผู้ประกอบาการ SMEs หลังน้ำลด โดยได้ตกลงทำบันทึกความร่วมมือใน 5
เรื่อง ดังนี้ 1.
พัฒนาและรวบรวมองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับฟื้นฟูเครื่องจักร
อุปกรณ์หลังน้ำลด 2. ดำเนินการฟื้นฟูเครื่องจักรอุปกรณ์หลัก
พร้อมฝึกอบรมช่างของผู้ประกอบการ เพื่อขยายขอบข่ายการให้บริการ 3.
ให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ช่างฝีมือในสาขาต่างๆ เช่น ไฟฟ้า
โยธา เครื่องกล คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ตลอดจนบุคลากรด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
4. จัดหาและสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ที่จำเป็นในการให้ความช่วยเหลือ และ
5. เผยแพร่ข้อมูล องค์ความรู้ และเทคโนโลยีผ่านเครือข่ายช่องทางสื่อต่างๆ
ของเครือข่ายความร่วมมือ
เพื่อให้เข้าถึงผู้ประกอบการที่ต้องการฟื้นฟูเครื่องจักรอุปกรณ์หลังน้ำลด
อย่างไรก็ตาม ในด้านการช่วยเหลือการซ่อมแซมเครื่องจักรนั้น ทั้ง 3
หน่วยงาน มีนโยบายที่จะเน้นการเข้าไปซ่อมแซมใน 2 ส่วนสำคัญคือ
แผงวงจรอิเล็คทรอนิก ซึ่งเปรียบเสมือนสมองคน และส่วนกำลัง
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมอเตอร์ ที่เปรียบเสมือนหัวใจคน เพราะหาก 2
ส่วนนี้ไม่ทำงานก็ถือว่าเครื่องจักรไม่สามารถเดินเครื่องต่อไปได้
เราจึงมีนโยบายในการเร่งกู้ทั้งสองส่วนให้สามารถกลับมาใช้งานได้โดยเร็วที่
สุด ด้วยการถ่ายทอดเทคนิค มอบน้ำยาทำความสะอาดเครื่องจักร
และให้คำแนะนำผู้ประกอบการ หรือบุคลากรใน
สถานประกอบการเพื่อให้สามารถดำเนินการซ่อมเครื่องจักรเองได้
และอีกหนึ่งเจตนารมย์ที่ทั้ง 3
หน่วยงานคาดหวังให้เกิดขึ้นจากการการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ คือ
การถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสถานประกอบการที่ได้รับความรู้ด้านการซ่อมแซมเครื่อง
จักรแล้ว ไปสู่สถานประกอบการอื่นๆ
ที่ได้รับผลกระทบหลังน้ำลดได้ต่อไปอีกด้วย
ด้านนายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์
เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดพานิชย์และต่างประเทศ บริษัท ปตท.
จำกัด (มหาชน)
กล่าวร่วมกันในฐานะผู้สนับสนุนการฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมที่ประสบอุทกภัยใน
ครั้งนี้ว่ากลไกสำคัญอย่างหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังน้ำท่วมคือ
การฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมให้ฟื้นสภาพกลับมาโดยเร็ว
ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ต้องประกอบด้วยความรู้ เครื่องมือ และกรรมวิธี โดย
บมจ.เอไอเอส และ บมจ.ปตท.
เห็นร่วมกันว่ากิจกรรมความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ภาค
อุตสาหกรรม โรงงานต่างๆ ได้รับความรู้ เครื่องมือ
และกรรมวิธีที่จะทำให้ฟื้นฟูได้เร็ว
และสามารถเดินเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางบริษัทจึงได้ให้การสนับสนุนเงินทุนจำนวน 1 ล้านบาทแก่โครงการนี้
เพื่อให้กิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นโดยเร็ว เป็นรูปธรรรม
และสามารถดำเนินการได้ทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น